ตัวประกอบของ 1000
โปรแกรมแยกตัวประกอบจำนวนนับ (Factoring calculator) เป็นเครื่องมือที่คุณสามารถใช้สำหรับค้นหาและแยกตัวประกอบของตัวเลขจำนวนเต็ม ป้อนตัวเลขที่ต้องการค้นหาและแยกตัวประกอบ และกดคำนวณเพื่อเริ่มต้น
ตัวประกอบของ 1000 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1000 มีอยู่ 16 ตัวคือ
1, 2, 4, 5, 8, 10, 20, 25, 40, 50, 100, 125, 200, 250, 500, 1000
ดังนั้น 1000 สามารถเขียนแยกตัวประกอบได้เป็นดังนี้
1 × 1000 = 1000
2 × 500 = 1000
4 × 250 = 1000
5 × 200 = 1000
8 × 125 = 1000
10 × 100 = 1000
20 × 50 = 1000
25 × 40 = 1000
วิธีแยกตัวประกอบของ 1000
วิธีหาและแยกตัวประกอบของ n สามารถทำได้โดยการตรวจสอบการหารลงตัวจาก 1-รากที่สองของ n นี่เป็นวิธีการแยกตัวประกอบของ 1000
ขั้นตอนที่ 1: คำนวณหารากที่สองของ 1000 ในรูปของจำนวนเต็มจะได้
รากที่สองของ 1000 คือ 31.622776601684
รากที่สองในจำนวนเต็มคือ 31
ขั้นตอนที่ 2: ค้นหาตัวเลขจาก 1 ถึง 31 ที่สามารถหาร 1000 ลงตัวจะได้
1, 2, 4, 5, 8, 10, 20, 25
ขั้นตอนที่ 3: ดังนั้น 1000 สามารถเขียนในรูปของการแยกตัวประกอบได้เป็น
1 × 1000 = 1000
2 × 500 = 1000
4 × 250 = 1000
5 × 200 = 1000
8 × 125 = 1000
10 × 100 = 1000
20 × 50 = 1000
25 × 40 = 1000
ตัวประกอบจำนวนเฉพาะของ 1000
ตัวประกอบเฉพาะของ 1000 มี 2 ตัวคือ
2, 5
ดังนั้น 1000 สามารถเขียนในรูปการแยกตัวประกอบเฉพาะได้ดังนี้
2 × 2 × 2 × 5 × 5 × 5 = 1000 หรือ
23 × 53 = 1000
วิธีแยกตัวประกอบจำนวนนับ
วิธีการแยกตัวประกอบจำนวนนับ n สามารถทำได้โดยตรวจสอบการหารลงตัว นี่เป็นวิธีการแยกตัวประกอบของตัวเลขจำนวนนับ
- เพื่อค้นหาและแยกตัวประกอบของจำนวนนับ n ตัวอย่าง n เท่ากับ 12
- ค้นหารากที่สองของ n ในรูปของจำนวนเต็มกำหนดให้เป็น s คือ 3.46 => 3
- ค้นหาตัวเลขจาก 1-s ที่สามารถหาร n ได้ลงตัว นั่นคือ 1, 2 และ 3
- นำตัวเลขแต่ละตัวมาเขียนเป็นคู่ (a, b) ที่คูณกันแล้วได้เท่ากับ n จะได้
- (1, b) = n, (2, b) = n และ (3, b) = n จากนั้นคำนวนหา b ทั้งหมด
- จะได้การแยกตัวประกอบทั้งหมดของ n คือ (1, 12), (2, 6) และ (3, 4)